ปลอกคอกันเลียไอเทมสุดเจ๋ง หลังการทำหมันแมว
Epic Clawset2024-02-23T12:06:05+07:00ปลอกคอกันเลีย ไอเทมหลังการทำหมันน้องแมว ที่เจ้าของต้องมี!
รู้จักกับ “ปลอกคอกันเลียแมว”
ปลอกคอกันเลีย มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าคอลล่า หรือ Elizabeth collar ที่เจ้าของอย่างเรา ๆ ก็คงจะคุ้นเคยกันดีกับหน้าตาที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์คล้าย ๆ กับจานหรือลำโพง ที่จะค่อย ๆ บานออกจากด้านในที่ติดกับคอหรือปลอกคอจึงถูกเรียกว่าปลอกคอกันเลียนั่นเอง
โดยเจ้าปลอกคอสำหรับกันเลียนั้น มักจะใช้วัสดุที่เป็นพลาสติกชนิดเหนียว มีความแข็งแรง ทนทาน ซึ่งเราจะได้เห็นน้องแมวสวมใส่เมื่อทำการผ่าตัดหรือเมื่อมีแผลบริเวณต่าง ๆ ของร่างกาย และถึงแม้เราจะคุ้นเคยกับปลอกคอสำหรับกันเลียหรือคอลล่าแบบเดิม ๆ ที่เป็นพลาสติก แต่ในปัจจุบันได้มีการผลิตปลอกคอสำหรับกันเลียแมวออกมามากมายหลากหลายรูปแบบ โดยจะเพิ่มความน่ารัก เพิ่มความอ่อนโยนในการสวมใส่ และเพิ่มความอิสระในการเลือกซื้อของเจ้าของมากยิ่งขึ้น บ้างก็ออกแบบดีไซน์ในรูปแบบปลอกคอกันเลียแฟชั่นที่มีดีไซน์ที่สวนงาม น่ารัก และโดดเด่นแตกต่างกันไป เช่น ปลอกคอแมวน่ารักๆสำหรับกันเลียที่ดีไซน์เป็นรูปดอกไม้ ปลอกคอสำหรับกันเลียที่ดีไซน์เป็นรูปทุเรียน หรือปลอกคอสำหรับกันเลียที่ดีไซน์เป็นรูปอะโวคาโด บ้างก็ใช้วัสดุอื่น ๆ นอกเหนือจากพลาสติกเพื่อเพิ่มความอ่อนโยนในการสวมใส่ให้กับน้องแมวมากยิ่งขึ้น
เรียกได้ว่าการให้น้องแมวสวมใส่ปลอกคอสำหรับกันเลียนั้นจะไม่ใช่เรื่องที่น่าเบื่ออีกต่อไป และที่สำคัญคือจะช่วยทำให้น้องแมวได้รับความปลอดภัยภายหลังจากการผ่าตัดทำหมันหรือในระหว่างที่น้องแมวมีอาการบาดเจ็บต่าง ๆ บริเวณใบหน้าและร่างกายได้อย่างแน่นอน
และนอกจากปลอกคอกันเลียแล้ว ก็ยังมีอีกหนึ่งไอเทมที่จะช่วยให้น้องแมวได้รับความปลอดภัยหลังจากการทำหมันได้เช่นเดียวกัน นั่นก็คือชุดหลังการผ่าตัด หรือชุดที่ออกแบบมาเพื่อให้น้องแมวสวมใส่หลังจากการผ่าตัด เพื่อลดการเลียแผล และป้องกันไม่ให้แผลอักเสบหรือติดเชื้อนั่นเอง
ประโยชน์ของปลอกคอสำหรับกันเลียแมว
จากประโยชน์ที่มากมายของการใส่ปลอกคอแมวเพื่อกันเลีย จึงทำให้ปลอกคอชนิดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และวงการแพทย์ก็ได้ให้การยอมรับที่จะนำคอลล่าหรือปลอกคอสำหรับกันเลียมาใช้เพื่อปกป้องน้องแมวให้ได้รับความปลอดภัยมากที่สุดหลังจากการผ่าตัด ทำหมัน หรือในขณะที่น้องแมวกำลังมีอาการต่าง ๆ ทางด้านผิวหนัง
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ปลอกคอชนิดนี้จะมีประโยชน์มากมายโดยเฉพาะประโยชน์สำหรับน้องแมวที่เข้ารับการผ่าตัดทำหมัน แต่ถ้าเจ้าของอย่างเราไม่ดูแลและให้ความสำคัญกับการใส่ปลอกคอกันเลียแมวให้ถูกวิธี น้องแมวของเราก็อาจจะได้รับอันตรายเช่นเดียวกัน เราจึงขอแนะนำให้ทุกคนสวมใส่ปลอกคอสำหรับกันเลียให้น้องแมวโดยคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้
- สวมใส่ปลอกคอกันเลียแมวตามคำแนะนำของแพทย์ และถอดเมื่ออาการกลับเป็นปกติ หรือแพทย์ลงความเห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะสามารถถอดปลอกคอเพื่อกันเลียออกได้
- ควรแปรงขนและทำความสะอาดตัวน้องแมวอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
- จัดเตรียมชามใส่อาหารที่ไม่ใหญ่เกินไป โดยจะต้องให้ปลอกคอสำหรับกันเลียสามารถครอบลงไปได้
- ในช่วงแรกที่ให้น้องแมวใส่ปลอกคอสำหรับกันเลีย เจ้าของจะต้องช่วยยกชามใส่อาหารให้น้องแมว เพื่อให้น้องแมวปรับตัวในการทานอาหารขณะใส่ปลอกคอชนิดนี้
สำหรับน้องแมวหลังผ่าตัด เช่น การทำหมัน
ปลอกคอสำหรับกันเลียมีประโยชน์โดยตรงสำหรับน้องแมวที่เข้ารับการผ่าตัด โดยเฉพาะการผ่าตัดทำหมัน เพราะปลอกคอชนิดนี้จะช่วยป้องกันการเลียแผล และป้องกันการกัดแทะบริเวณแผลที่เกิดขึ้นจากการผ่าตัด อันเป็นสาเหตุของการอักเสบ หรือการติดเชื้อ ซึ่งอาจนำมาซึ่งอันตรายต่อตัวน้องแมวในอนาคต
สำหรับน้องแมวที่เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตา
นอกจากปลอกคอกันเลียแมวจะตอบโจทย์น้องแมวหลังผ่าตัดแล้ว ยังมีประโยชน์ต่อน้องแมวที่เป็นโรคหรือมีอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบริเวณดวงตาได้อีกด้วย เนื่องจากเมื่อมีอาการคันหรือมีอาการอักเสบที่ดวงตา น้องแมวมักจะใช้อุ้งเท้าเกาหรือเขี่ยบริเวณนั้นทำให้อาการอาจรุนแรงมากขึ้น การที่เจ้าของใส่ปลอกคอสำหรับกันเลียให้น้องแมวจะทำให้น้องแมวมาเกาหรือเอาอุ้งเท้ามาเขี่ยบริเวณดวงตาได้ยาก จึงช่วยป้องกันไม่ให้อาการมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นได้นั่นเอง
สำหรับน้องแมวที่มีอาการบาดเจ็บบนใบหน้า
ปลอกคอกันเลียมีประโยชน์สำหรับน้องแมวที่มีอาการบาดเจ็บบนใบหน้า โดยจะช่วยป้องกันไม่ให้น้องแมวมาเกาแผลบนใบหน้าทำให้อาการรุนแรงมากขึ้น และยังตอบโจทย์สำหรับน้องแมวมีอาการคันที่หน้า หัว และลำคอ เพราะจะช่วยไม่ให้น้องแมวเกาหรือเขี่ยบริเวณที่คัดจนเกิดแผลขึ้นได้นั่นเอง
สำหรับน้องแมวที่เป็นโรคผิวหนัง
เจ้าของอย่างเราสามารถให้น้องแมวที่เป็นโรงผิวหนังสวมใส่ปลอกคอสำหรับกันเลียแมวได้เช่นเดียวกัน เพราะเมื่อเป็นโรคผิวหนังบริเวณต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นลำตัว เท้า ขา หรือก้น น้องแมวก็มักจะเลียหรือกัดแทะบริเวณนั้นอยู่บ่อย ๆ ทำให้อาการของโรคผิวหนังรุนแรงหรือเกิดการอักเสบขึ้นได้ ซึ่งปลอกคอสำหรับกันเลียจะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้ได้เป็นอย่างดี
ข้อควรรู้ในการใส่ปลอกคอกันเลียหลังการผ่าตัดหรือมีอาการต่าง ๆ
จากประโยชน์ที่มากมายของการใส่ปลอกคอแมวเพื่อกันเลีย จึงทำให้ปลอกคอชนิดนี้ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก และวงการแพทย์ก็ได้ให้การยอมรับที่จะนำคอลล่าหรือปลอกคอสำหรับกันเลียมาใช้เพื่อปกป้องน้องแมวให้ได้รับความปลอดภัยมากที่สุดหลังจากการผ่าตัด ทำหมัน หรือในขณะที่น้องแมวกำลังมีอาการต่าง ๆ ทางด้านผิวหนัง
แต่อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ปลอกคอชนิดนี้จะมีประโยชน์มากมายโดยเฉพาะประโยชน์สำหรับน้องแมวที่เข้ารับการผ่าตัดทำหมัน แต่ถ้าเจ้าของอย่างเราไม่ดูแลและให้ความสำคัญกับการใส่ปลอกคอกันเลียแมวให้ถูกวิธี น้องแมวของเราก็อาจจะได้รับอันตรายเช่นเดียวกัน เราจึงขอแนะนำให้ทุกคนสวมใส่ปลอกคอสำหรับกันเลียให้น้องแมวโดยคำนึงถึงสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้
- สวมใส่ปลอกคอกันเลียแมวตามคำแนะนำของแพทย์ และถอดเมื่ออาการกลับเป็นปกติ หรือแพทย์ลงความเห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะสามารถถอดปลอกคอเพื่อกันเลียออกได้
- ควรแปรงขนและทำความสะอาดตัวน้องแมวอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
- จัดเตรียมชามใส่อาหารที่ไม่ใหญ่เกินไป โดยจะต้องให้ปลอกคอสำหรับกันเลียสามารถครอบลงไปได้
- ในช่วงแรกที่ให้น้องแมวใส่ปลอกคอสำหรับกันเลีย เจ้าของจะต้องช่วยยกชามใส่อาหารให้น้องแมว เพื่อให้น้องแมวปรับตัวในการทานอาหารขณะใส่ปลอกคอชนิดนี้
เสริมความรู้เรื่อง “การทำหมันแมว” พร้อมวิธีดูแลน้องแมวให้ปลอดภัย
เมื่อทุกคนได้รู้ถึงความสำคัญของปลอกคอสำหรับกันเลีย และรู้ว่าปลอกคอกันเลียนั้นตอบโจทย์และมีประโยชน์อย่างมากสำหรับน้องแมวหลังจากการผ่าตัด โดยเฉพาะกับน้องแมวที่ผ่านการผ่าตัดเพื่อทำหมันกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทาง CLAWSET BKK ขอแนะนำทุกท่านเกี่ยวกับการทำหมันน้องแมว และการดูแลน้องแมวให้ปลอดภัยหลังการผ่าตัดนอกเหนือจากการใส่ปลอกคอแมวสำหรับกันเลียให้เจ้าของทุกคนได้รู้!
ทำหมันแมวตัวผู้ VS ทำหมันแมวตัวเมีย
ในการทำหมันน้องแมวน้อย สามารถทำได้ทั้งกับน้องแมวตัวผู้และน้องแมวตัวเมีย ซึ่งเพศของแมวที่แตกต่างกันก็จะมีวิธีการทำหมัน ระยะเวลาที่เหมาะสม และประโยชน์ของการทำหมันที่แตกต่างกัน ดังนี้
การทำหมันแมวตัวผู้
ในการทำหมันสำหรับน้องแมวตัวผู้ แพทย์จะนำเอาอัณฑะและท่อนำน้ำเชื้อของแมวตัวผู้ออก ซึ่งควรทำตอนน้องแมวมีอายุประมาณ 5-6 เดือน หรือก็คือก่อนที่น้องแมวตัวผู้จะติดสัดครั้งแรก (ระยะเวลาอาจแตกต่างกัน ขึ้นอยู่ตามปัจจัยอื่น ๆ และคำแนะนำของแพทย์)
ประโยชน์ของการทำหมันแมวตัวผู้
- ช่วยควบคุมประชากรแมว และปัญหาการเลี้ยงดูน้องแมวที่ไม่พร้อมของเจ้าของ
- ช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็งอัณฑะ โรคมะเร็งตับอ่อน
- ช่วยลดปัญหาน้องแมวหนีออกจากบ้านไปผสมพันธุ์
- ช่วยลดปัญหาน้องแมวก้าวร้าว
- ช่วยให้น้องแมวปัสสาวะเป็นที่ ลดการสร้างอาณาเขตจากการปัสสาวะ
การทำหมันแมวตัวเมีย
การทำหมันน้องแมวตัวเมียสามารถทำได้ 2 แบบคือการตัดรังไข่ (Ovariectomy) และการตัดทั้งรังไข่และมดลูก (Ovariohysterectomy: OVH) ซึ่งควรทำให้ช่วงที่น้องแมวมีอายุ 6-8 เดือนขึ้นไป ซึ่งเป็นช่วงวัยเจริญพันธุ์ของน้องแมวนั่นเอง
ประโยชน์ของการทำหมันแมวตัวเมีย
- ช่วยควบคุมประชากรแมว และปัญหาการเลี้ยงดูน้องแมวที่ไม่พร้อมของเจ้าของ
- ช่วยป้องกันโรคต่าง ๆ เช่น โรคมะเร็งเต้านม โรคมดลูกอักเสบ เนื้องอกที่มดลูก และภาวะแทรกซ้อนต่าง ๆ จากการคลอดลูกของน้องแมวตัวเมีย
- ช่วยลดปัญหาน้องแมวก้าวร้าว การทำลายข้าวของ และปัญหาน้องแมวร้องเสียงดังในช่วงติดสัด
- ช่วยลดพฤติกรรมการหนีออกจากบ้าน ทำให้น้องแมวติดบ้านมากขึ้น
การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดทำหมันแมว
นอกจากที่ทุกคนจะต้องเรียนรู้ถึงการใส่ปลอกคอกันเลียหรือการใส่ปลอกคอแมวเพื่อป้องกันการเลียแผลหลังจากการทำหมัน เจ้าของอย่างเราจะต้องเตรียมตัวและดูแลน้องแมว ‘ก่อนทำการผ่าตัดทำหมัน’ ให้ถูกวิธี เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของตัวน้องแมวของเรา ซึ่งก่อนการทำหมัน เราขอให้ทุกคนปฏิบัติตามคำแนะนำต่าง ๆ ดังนี้
- พาน้องแมวไปเจาะเลือดและตรวจสุขภาพก่อนการทำหมัน เพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของเลือด ป้องกันภาวะแทรกซ้อน และป้องกันอาการข้างเคียงจากโรคต่าง ๆ
- งดการให้น้ำ อาหาร ขนม และนมก่อนการผ่าตัดทำหมันประมาณ 8 ชั่วโมง หรือตามคำแนะนำของแพทย์ที่ดูแล
- เลี่ยงการให้น้องแมวออกไปเล่นซนนอกบ้านในช่วงก่อนการทำหมัน โดยเฉพาะในช่วงเช้าก่อนการทำหมัน ไม่ควรให้น้องแมวทำกิจกรรมหนัก ๆ เช่น การวิ่งเล่นที่รุนแรง หรือการออกกำลังกายต่าง ๆ
นอกจากนี้ทุกคนจะต้องจัดเตรียมสถานที่พักฟื้นของน้องแมวให้พร้อม ไม่ว่าจะเป็นกรงหรือที่นอนสำหรับน้องแมว โดยจะต้องให้ความสำคัญกับเรื่องของความสะอาด และอย่าลืมจัดเตรียมอุปกรณ์ป้องกันการเลียแผลหลังผ่าตัดของน้องแมวอย่างปลอกคอกันเลียแมว ชุดกันเลีย หรือชุดหลังผ่าตัด เพื่อป้องกันปัญหาแผลติดเชื้อหรือแผลหลังผ่าตัดของน้องแมวหายช้านั่นเอง
รวมวิธีดูแลน้องแมวหลังทำหมัน
ไม่ใช่แค่การเตรียมตัวก่อนการผ่าตัดทำหมันที่เจ้าของน้องแมวควรรู้ ก่อนจะพาน้องแมวไปทำหมันทุกคนควรศึกษาข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบถ้วนโดยเฉพาะในเรื่องของการดูแลน้องแมวหลังการทำหมัน เพราะเมื่อน้องแมวต้องกลับมารักษาตัวที่บ้านและไม่ได้อยู่ในการดูแลของแพทย์แล้ว หากเจ้าของดูแลน้องแมวแบบผิด ๆ หรือทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมก็อาจจะทำให้น้องแมวได้รับอันตรายได้ ซึ่งวิธีดูแลน้องแมวหลังทำหมันนั้นก็ไม่ยากเลย เพียงแค่ทุกคนจะต้องทำตามคำแนะนำเหล่านี้
- สังเกตและดูแลน้องแมวอย่างใกล้ชิด อย่าให้น้องแมวนั่งคอตก เพราะการนั่งคอตกอาจทำให้ทางเดินหายใจถูกปิดกั้น และอาจเกิดอันตรายตามมาจนถึงขั้นเสียชีวิตได้
- อย่าป้อนน้ำหรืออาหารให้น้องแมวทันทีหลังการผ่าตัดทำหมัน ควรรอให้น้องแมวทานอาหารและน้ำด้วยตนเอง เนื่องจากน้องแมวอาจมีอันตรายหากทานอาหารในช่วงที่ยังไม้ฟื้นจากยาสลบเต็มที่
- ระมัดระวังการเคลื่อนไหวของน้องแมวที่อาจกระทบกระเทือนกับแผลได้ อย่าให้น้องแมวทำกิจกรรม วิ่ง หรือกระโดดมากไปอย่างน้อย 5-7 วันหลังผ่าตัดทำหมัน
- หมั่นรักษาความสะอาดพื้นที่เลี้ยงแมวหรือสถานที่ที่เราจัดเตรียมไว้ให้น้องแมวพักฟื้นอยู่เสมอ
- ระมัดระวังไม่ให้แผลของน้องแมวสัมผัสโดนน้ำ เพราะอาจทำให้แผลติดเชื้อได้
- จัดสถานที่พักฟื้นโดยแยกน้องแมวที่ทำหมันกับสัตว์เลี้ยงตัวอื่น
นอกจากนี้เจ้าของยังจะจำเป็นจะต้องสวมใส่ปลอกคอกันเลียให้กับน้องแมว และสังเกตอาการผิดปกติต่าง ๆ ของแผลผ่าตัดอยู่เสมอ หากแผลมีการบวม แดง มีหนอง หรือแผลแตก รวมถึงน้องแมวก็มีพฤติกรรมที่เซื่องซึมผิดปกติ ควรรีบพาน้องแมวเข้าพบแพทย์ทันที
———————————
เป็นอย่างไรกันบ้างกับความสำคัญของปลอกคอกันเลียและเรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการทำหมันแมวที่เราได้รวบรวมมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้กันในวันนี้ หากเจ้าของน้องแมวคนไหนกำลังมองหาปลอกคอกันเลียแมว ชุดกันเลีย หรือชุดหลังผ่าตัดเพื่อนำไปสวมใส่ให้กับน้องแมวหลังจากการทำหมัน หรือเพื่อนำไปใช้ประโยชน์อื่น ๆ สามารถเข้าไปเยี่ยมชมสินค้าเสื้อผ้าน้องหมาน้องแมว ปลอกคอแมวน่ารัก ๆชุดหลังผ่าตัด และเสื้อน้องแมวน้องหมาแฟชั่นอื่น ๆ กันได้เลย ที่ CLAWSET BKK