วิธีเลี้ยงลูกแมว เปิดเคล็ดลับก่อนเลี้ยงแมวเหมียว | CLAWSET
Epic Clawset2024-02-23T13:35:00+07:00แชร์เคล็ดลับ! วิธีเลี้ยงลูกแมวก่อนจะพาเจ้าเหมียวเข้าบ้าน
สัตว์เลี้ยงแสนน่ารักมีอยู่หลากหลายประเภท หนึ่งในนั้นก็จะต้องมีแมวเหมียวตัวน้อยรวมอยู่ด้วยแน่นอน อย่างที่เรารู้กันว่าการเลี้ยงแมวเด็กเป็นสิ่งที่ดีต่อใจของทาสแมวอย่างเรามาก ๆ โดยวิธีเลี้ยงลูกแมวก็ไม่ได้ยากหรือซับซ้อนอย่างที่ทาสแมวมือใหม่หลาย ๆ คนคิด เพราะการดูแลแมวเหมียวมีขั้นตอนและข้อควรระวังในการเลี้ยงแมวเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
โดยก่อนจะเลี้ยงน้องแมวสุดน่ารักหรือซื้อชุดน้องแมวสวย ๆ เราก็ต้องรู้ความชอบของเราก่อนว่าเราชอบน้องแมวแบบไหน? ไม่ว่าจะเป็นขนสั้นหรือขนยาว แมวไทยหรือแมวนอก ซึ่งสายพันธุ์ของเจ้าแมวเหมียวที่นิยมในไทยนั้นมีอยู่หลากหลายสายพันธุ์ เช่น
- วิเชียรมาศ
- สีสวาด
- ขาวมณี
- เปอร์เซีย
- บริติช ชอร์ตแฮร์
- อเมริกัน ชอร์ตแฮร์
- สก็อตติช โฟลด์
ซึ่งเมื่อตัดสินใจได้แล้วว่าอยากเลี้ยงน้องแมวสายพันธุ์อะไร ก็จะต้องเตรียมตัวให้พร้อมเลี้ยงแมวเด็กและเริ่มชอปปิงอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมถึงสิ่งที่น้องแมวตัวน้อยจะต้องใช้เพื่อให้สามารถเลี้ยงน้อง ๆ ได้อย่างไร้กังวล
วิธีเลี้ยงลูกแมวสำหรับทาสแมวมือใหม่
การดูแลแมวตัวเล็ก ๆ หรือแมวเด็กที่เพิ่งเกิดได้ไม่กี่เดือนให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่เจ็บป่วยง่าย ๆ สามารถทำได้ตั้งแต่ตอนที่น้องแมวเพิ่งลืมตาดูโลก ด้วยการให้เบบี้น้องแมวกินนมจากแม่อย่างน้อย 2 วันเป็นอย่างต่ำ เพื่อให้เบบี้น้องแมวได้รับสารอาหารที่ครบถ้วน
หลังจากน้องแมวหย่านมแม่แล้ว (อายุประมาณ 4 สัปดาห์ขึ้นไป) เราก็สามารถให้น้องแมวกินอาหารแบบเปียกได้ แถมการให้อาหารเปียกยังเป็นการช่วยให้น้องแมวฝึกกินอาหารได้ดีอีกด้วย
เมื่อน้องแมวโตขึ้นจนอายุประมาณ 6-8 สัปดาห์ ทาสแมวอย่างเราก็เลี้ยงน้องแมวตามปกติได้เลย และที่สำคัญจะต้องให้น้องแมวกินแต่อาหารที่มีประโยชน์ เพื่อให้น้องแมวมีสุขภาพดีและมีขนสวยนุ่มลื่นน่าสัมผัส ซึ่งนอกจากจะต้องเน้นเรื่องการกินและการเลือกเสื้อน้องแมวแล้ว วิธีเลี้ยงลูกแมววิธีอื่น ๆ จะมีวิธีอะไรบ้าง? ไปดูพร้อมกันได้เลย
ฝึกให้น้องแมวขับถ่าย
วิธีเลี้ยงลูกแมวอย่างแรกที่ทาสแมวมือใหม่จะต้องเตรียมตัวรับมือไว้ก็คือการฝึกให้ลูกแมวขับถ่ายนั่นเอง โดยวิธีการซึ่งน้องแมวให้ขับถ่ายจะสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ช่วงอายุ คือ ลูกแมวแรกเกิดและลูกแมวที่อายุ 6 สัปดาห์ขึ้นไป
ลูกแมวแรกเกิด – 6 สัปดาห์
ถ้าเราเลี้ยงแมวเด็กตั้งแต่น้องยังอยู่ในวัยแรกเกิด – 6 สัปดาห์ เราจะต้องดูแลให้น้องแมวขับถ่ายได้ด้วยตัวเอง ด้วยวิธีการกระตุ้นระบบขับถ่ายของน้องแมว ดังนี้
- นำสำลีชุบน้ำอุ่นพอให้ชุ่มเนื้อสำลี
- นำสำลีไปเช็ดหรือถูบริเวณก้นและอวัยวะเพศของลูกแมวเบา ๆ
- ทำอย่างน้อยวันละ 3-4 ครั้ง
- ทำหลังจากป้อนนมน้องแมว
- สังเกตการขับถ่ายของน้องแมวเสมอ
ลูกแมวอายุ 6 สัปดาห์ขึ้นไป
วิธีเลี้ยงลูกแมวให้ขับถ่ายในช่วงอายุ 6 สัปดาห์ขึ้นไป จะสามารถเริ่มฝึกให้น้องแมวใช้กระบะทรายได้แล้ว และการฝึกให้น้องแมวสุดน่ารักใช้กระบะทรายก็ทำได้อย่างง่ายดาย เพียงทำตามขั้นตอนเหล่านี้
- เลือกทรายแมวธรรมชาติ
- วางกระบะทรายในมุมที่สงบ
- วางน้องแมวลงในกระบะทราย
- ชมน้องแมวเมื่อถ่ายในกระบะทราย
อุณหภูมิต้องเหมาะสมกับน้องแมว
การทำอุณหภูมิให้เหมาะสมกับน้องแมวเป็นวิธีเลี้ยงลูกแมวที่สำคัญมาก ๆ เพราะลูกแมวจำเป็นจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่มีความอบอุ่นกำลังพอดี และเราสามารถประเมินอุณหภูมิของบริเวณที่ใช้เลี้ยงแมวเด็กว่ามีความอบอุ่นเพียงพอหรือไม่ด้วยวิธีการดังนี้
- สังเกตว่าน้องแมวนอนเป็นกระจุกหรือไม่
- ถ้าน้องแมวนอนเป็นกระจุกแสดงว่าบริเวณนี้มีความเย็นมากเกินไป
- สังเกตว่าน้องแมวนอนห่างจากไฟกกหรือไม่
- ถ้าน้องแมวนอนแบบนี้แสดงว่าไฟกกร้อนมากเกินไป
พาน้องแมวไปฉีดวัคซีน
อีกหนึ่งวิธีเลี้ยงลูกแมวที่สำคัญไม่แพ้กับวิธีอื่นก็คือการพาน้องแมวไปฉีดวัคซีน โดยน้องแมวสามารถฉีดวัคซีนได้เมื่อมีอายุ 8 สัปดาห์ขึ้นไป และวัคซีนหลัก ๆ ที่น้องแมวจะต้องฉีดเพื่อสุขภาพที่แข็งแรงก็คือ
- วัคซีนป้องกันพิษสุนัขบ้า
- วัคซีนป้องกันโรคไข้หัดแมว
- วัคซีนป้องกันโรคหวัดแมว
- วัคซีนป้องกันไวรัสมะเร็งเม็ดเลือดขาวในแมว
ป้องกันปรสิตให้น้องแมว
เมื่อตัดสินใจเลี้ยงน้องแมวแล้ว ทาสแมวอย่างเราก็จะต้องดูแลและป้องกันปรสิตให้กับสัตว์เลี้ยงแสนน่ารักของเราด้วย ไม่ว่าจะเป็นปรสิตภายนอก เช่น เห็บ หมัด ไร และปรสิตภายใน เช่น พยาธิในทางเดินอาหาร ซึ่งเราจะสามารถดูแลน้องแมวให้ห่างไกลจากเหล่าปรสิตได้เมื่อน้องแมวจะต้องอายุอย่างน้อย 8 สัปดาห์ ดังนี้
- หยอดยาป้องกันเห็บหมัดเป็นประจำทุกเดือน
- ให้น้องแมวกินยาถ่ายพยาธิ ทุก 3-6 เดือน
ฝึกอาบน้ำให้น้องแมว
การอาบน้ำให้กับน้องแมวเป็นวิธีการเลี้ยงลูกแมวที่ห้ามมองข้าม และทาสแมวอย่างเราก็จะต้องรู้เวลาที่เหมาะกับการอาบน้ำให้กับเจ้าเหมียวด้วย โดยเราสามารถฝึกอาบน้ำให้น้องแมวได้หลังจากฉีดวัคซีนและถ่ายพยาธิเรียบร้อยแล้ว หรือก็คือตอนที่น้องแมวอายุประมาณ 8 สัปดาห์ขึ้นไป จากนั้นสามารถอาบน้ำให้น้องแมวได้ทุก ๆ 1-3 เดือน ซึ่งขั้นตอนการฝึกให้น้องแมวอาบน้ำมีดังนี้
- เตรียมแชมพู ผ้าเช็ดตัว และไดร์ให้พร้อม
- แปรงขนที่พันกันหรือหลุดร่วงก่อนอาบน้ำ
- ให้อุ้งเท้าของน้องแมวสัมผัสน้ำก่อน เพื่อสร้างความคุ้นชิน
- ค่อย ๆ ให้น้องแมวโดนน้ำทั้งตัว
- ฟอกแชมพูเบา ๆ และระวังไม่ให้เข้าตาน้องแมว
- ล้างแชมพูและเช็ดตัวน้องแมวด้วยผ้าสะอาด
- เป่าขนน้องแมวให้แห้ง
เลี้ยงน้องแมวครั้งแรกต้องเตรียมอะไรบ้าง?
เมื่อรู้วิธีเลี้ยงลูกแมวให้สุขภาพดีและแข็งแรงกันแล้ว ในหัวข้อนี้เราจึงจะพูดถึงการเตรียมสิ่งของต่าง ๆ สำหรับทาสแมวป้ายแดงที่โดนน้องแมวตก จนตัดสินใจรับเบบี้น้องแมวมาเลี้ยง ขอบอกเลยว่าการเตรียมอุปกรณ์ของน้องแมวให้พร้อมจะสามารถช่วยให้ทาสมือใหม่ดูแลน้องเหมียวให้ปรับตัวเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้เป็นอย่างดี และจะทำให้น้องแมวไม่เครียด ร่าเริง กินอาหารได้เป็นปกติอีกด้วย ซึ่งอุปกรณ์ที่ต้องเตรียมให้พร้อมในการเลี้ยงน้องแมวจะมีอะไรบ้าง? ไปดูกัน
ชุดน้องแมว
ไอเทมแรกที่จะต้องเตรียมไว้สำหรับดูแลและเสริมคุณภาพวิธีเลี้ยงลูกแมวให้ทาสแมวมือใหม่ได้ก็คือชุดน้องแมวนั่นเอง และถ้าสงสัยว่าทำไมชุดน้องแมวถึงจำเป็น? เราขอบอกเลยว่าชุดน้องแมวคือสิ่งที่ช่วยให้ความอบอุ่นกับน้องแมว แถมยังสามารถป้องกันฝุ่นละอองได้อีกด้วย เรียกได้ว่าเป็นไอเทมดี ๆ ที่ไม่ควรมองข้ามเลยทีเดียว ซึ่งทาง CLAWSET ก็มีชุดน้องแมวให้เหล่าทาสของน้อง ๆ ได้เลือกชอปปิงหลากหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็น
- ชุดแฟนซี
- เสื้อคลุมไหล่
- ชุดกันขนร่วง
- เสื้อกันฝน
- และอื่น ๆ อีกมากมาย
ภาชนะใส่อาหารและน้ำ
ทาสแมวป้ายแดงจะต้องเตรียมภาชนะสำหรับใส่อาหารและน้ำของน้องแมวให้เหมาะสมกับขนาดของเจ้าตัวจิ๋ว และจะต้องไม่รบกวนหนวดของน้องแมว เพื่อให้น้องแมวสามารถกินอาหารได้อย่างสบายใจ นอกจากนี้เราจะต้องทำความสะอาดภาชนะสำหรับใส่อาหารและน้ำทุกวันด้วย
อาหารน้องแมว
การเลี้ยงน้องแมวให้มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงเริ่มต้นด้วยการเลือกอาหารที่เต็มไปด้วยคุณภาพและประโยชน์ที่ดีต่อน้องแมว ซึ่งเมื่อเราเลือกอาหารคุณภาพดีให้กับน้องแมวก็จะทำให้น้องแมวสุขภาพดี ขับถ่ายง่าย ขนนุ่มสวย และได้รับสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกายของน้องแมวอย่างครบถ้วนนั่นเอง
ทรายน้องแมว
ทรายแมวเป็นไอเทมที่ห้ามพลาดในการเลี้ยงน้องแมว เพราะนอกจากจะจำเป็นต่อการขับถ่ายของน้องแมวแล้ว ทรายแมวก็ยังช่วยให้บ้านของเราไร้กลิ่นไม่พึงประสงค์อีกด้วย โดยทรายแมวที่ดีจะต้องมีลักษณะดังนี้
- อุ้มน้ำได้ดี
- จัดการกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดี
กระบะทราย
แม้ว่าเราจะเริ่มเลี้ยงน้องแมวตั้งแต่ยังเป็นเบบี้ตัวน้อยอยู่ แต่เราก็ควรจะเลือกกระบะทรายที่มีขนาดใหญ่เผื่อน้องแมวโตได้เลย และกระบะทรายก็ควรจะมีความลึก 3 เซนติเมตรเป็นอย่างต่ำ เพื่อให้น้องแมวกลบสิ่งปฏิกูลได้อย่างง่ายดาย
แปรงขนแมว
แปรงขนแมวคือตัวช่วยที่ทำให้วิธีเลี้ยงลูกแมวมีประสิทธิภาพดียิ่งขึ้น เพราะการใช้แปรงขนแมวหวีขนเจ้าเหมียวจะเป็นการกระตุ้นให้ผิวหนังของน้องแมวมีสุขภาพดี จัดการขนร่วง และลดก้อนขนของน้องแมวได้อีกด้วย
เสาลับเล็บ
ส่วนหนึ่งของนิสัยน้องแมวคือการข่วนเล็บ นิสัยที่ทาสแมวมือใหม่จะต้องทำความเข้าใจว่าที่น้องแมวข่วนเล็บนั้นเป็นเพราะต้องการแสดงอาณาเขตของตัวเอง ดังนั้นถ้าไม่อยากให้น้องแมวข่วนเล็บกับสิ่งต่าง ๆ ภายในบ้านก็จะต้องเตรียมเสาลับเล็บไว้ให้เจ้าเหมียวนั่นเอง
เบาะนอน
เบาะนอนจะเป็นสิ่งที่ทำให้ลูกแมวนอนหลับง่ายขึ้น เพราะไอเทมนี้จะทำให้น้องแมวรู้สึกอบอุ่น มีความเป็นส่วนตัว แถมยังช่วยให้น้องแมวมีสุขภาพแข็งแรงอีกด้วย ดังนั้นทาสแมวอย่างเราจึงควรจะมีเบาะนอนสำหรับน้องแมวติดบ้านไว้ได้เลย ซึ่งทาสแมวสามารถอ่านประโยชน์ของเบาะนอนน้องแมวเพิ่มเติมได้ที่บทความ : เผยข้อดีของเบาะนอนสุนัขและแมวที่อาจไม่เคยรู้มาก่อน กันได้เลย
ของเล่น
ไม่ว่าจะเป็นแมวเด็กหรือแมววัยรุ่นต่างก็ชื่นชอบการเล่นของเล่น และของเล่นน้องแมวไม่ได้มีไว้เพียงให้เล่นสนุกเท่านั้น แต่ยังเป็นไอเทมที่ช่วยให้น้องแมวได้ขยับตัวหรือออกกำลังกาย ซึ่งการออกกำลังจะช่วยเสริมให้กล้ามเนื้อ กระดูก และข้อต่อของน้องแมวแข็งแรงและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ปลอกคอและสายจูง
ถ้ากังวลว่าน้องแมวจะหายไปจากสายตาตอนที่เราพาน้องแมวออกไปข้างนอกด้วยกัน ก็จะต้องมีปลอกคอและสายจูงติดบ้านไว้ เพราะไอเทมทั้งสองชิ้นนี้จะช่วยให้เราสามารถตามติดน้องแมวได้แบบไม่คาดสายตาแน่นอน
วิธีดูเบื้องต้นเกี่ยวกับอาการป่วยของน้องแมว
เมื่อเรารับน้องแมวมาดูแลแล้วก็จะต้องใส่ใจในทุกด้านของน้องแมว ไม่ว่าจะเป็นการฝึกน้องแมว สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อม อุปกรณ์ต่าง ๆ ไปจนถึงชุดน้องแมว นอกจากนี้อีกหนึ่งสิ่งที่เรายังต้องเตรียมพร้อมและต้องใส่ใจเป็นพิเศษในการดูแลแมวเด็กก็คืออาการ หรือพฤติกรรรมที่บ่งบอกว่าน้องแมวของเราอาจจะป่วยหรือไม่นั่นเอง ซึ่งวิธีสังเกตน้องแมวก็จะมีดังนี้
- พฤติกรรมที่เปลี่ยนไป มีอาการซึม หรือนอนเยอะขึ้น
- เบื่ออาหาร
- กินน้ำเยอะผิดปกติ
- ขับถ่ายไม่ปกติ
- ขนสากกว่าเดิม
- หยุดเลียขน
- สีของเหงือกเปลี่ยนไป
- มีกลิ่นปาก
- ผอมหรืออ้วนจนเกินไป
- หายใจผิดปกติ
- อาเจียน
- มีไข้
Checklist เตรียมพร้อมตัวเองก่อนที่จะเลี้ยงลูกแมว
หลังจากรู้วิธีเลี้ยงลูกแมว วิธีสังเกตอาการป่วย และไอเทมที่จะต้องในการเลี้ยงเจ้าเหมียวแล้ว การเตรียมความพร้อมตัวเองก่อนเลี้ยงน้องแมวก็เป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน เพราะน้องแมวอาจจะอายุยืนยาวถึง 20 ปี และเมื่อน้องแมวอายุเยอะมากขึ้นสภาพร่างกายของน้องแมวก็คงจะไม่แข็งแรงเหมือนในวัยเด็กแน่นอน ซึ่ง Checklist เหล่านี้จะช่วยให้ตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าเราจะสามารถเลี้ยงน้องแมวได้ในระยะยาวหรือไม่
- เรามีอาการแพ้ขนแมวไหม
- เราสามารถรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงน้องแมวได้ไหม
- เราจะมีเวลาให้น้องแมวไหม
- เรามีวิธีรับมือเมื่อต้องเดินทางไปนอกสถานที่ดีแค่ไหน
- ถ้ามีสัตว์เลี้ยงอยู่ก่อนแล้ว เราจะให้พื้นที่ส่วนตัวกับสัตว์เลี้ยงทุกตัวได้ไหม
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับวิธีเลี้ยงลูกแมว
การเลี้ยงลูกแมวสำหรับมือใหม่นั้นจะต้องเต็มไปด้วยความสงสัยและคำถามมากมายแน่นอน เราจึงได้เตรียมคำถามที่อาจเกิดขึ้นและคำตอบสำหรับทาสแมวป้ายแดงมาให้แล้ว ไปดูกันได้เลย
สิ่งจะต้องทำหลังจากพาลูกแมวเข้าบ้าน
- เตรียมพื้นที่สงบให้น้องแมว
- เตรียมอาหาร น้ำ กระบะทราย
- เล่นกับน้องแมวบ่อย ๆ จนคุ้นชิน
- อย่าจับหรือกอดน้องแมวแรงเกินไป
- ใช้ของเล่นสานสัมพันธ์กับน้องแมว
ลูกแมวใช้เวลาปรับตัวนานไหม?
- ลูกแมวจะใช้เวลาเวลาปรับตัวประมาณ 2-3 วัน
ลูกแมวเหมาะกับอาหารชนิดใดบ้าง?
- อาหารแมวที่มีคุณภาพดีและมีประโยชน์ต่อสุขภาพของน้องแมว
- อาหารเปียกผสมกับอาหารเม็ด
วางภาชนะใส่อาหารและน้ำไว้ใกล้กันดีไหม?
- ควรจะวางภาชนะใส่อาหารและน้ำแยกกัน
เพียงแค่เข้าใจเคล็ดลับวิธีเลี้ยงลูกแมวก็สามารถเลี้ยงแมวเด็กได้เป็นอย่างดีแล้ว อีกทั้งการดูแลแมวในระยะยาวคือช่วงเวลาที่เราจะต้องสามารถให้การดูแลน้องแมวได้เต็มที่ และหลีกเลี่ยงข้อควรระวังในการเลี้ยงแมวให้ได้ เพื่อให้เจ้าแมวน้อยเติบโตในบ้านของเราด้วยความสบายใจ ร่าเริง พร้อมกับสุขภาพที่แข็งแรง